เมนูหลัก
หน้าหลัก
ข้อมูลการประกันคุณภาพ
แผนภูมิแสดงแผนปฎิบัติการ
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากร
ข้อมูลเกี่ยวกับนักศึกษา
ข้อมูลการพัฒนาบุคลากร
ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาการ
ข้อมูลครุภัณฑ์หน่วยงาน
ข้อมูลอาคารและสิ่งก่อสร้าง
ข้อมูลผลงานประเภทต่างๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน
ปฏิทินการแจ้งซ่อมครุภัณฑ์
ปฏิทินการขอใช้รถยนต์ราชการ
ปฏิทินการขอใช้ห้องประชุม
แผนภูมิแสดงข้อมูลงานวิจัย
ดาว์โหลดเอกสารประเภทต่างๆ
สายตรงผู้อำนวยการ
   
เข้าระบบ
   
 
จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม
 
counter
   
หน้าหลัก » ข้อมูลลงาน
 
‹ ย้อนกลับ
 
หน่วยงาน : วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท
ประเภทผลงาน : โครงการวิจัย
ชื่อผลงาน: 55001 ประสบการณ์ของนักศึกษาพยาบาลในการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลช่วงวัยต่าง ๆ
  เป็นผลงานที่อยู่ในแผนส่งเสริมการนำเสนอผลงานวิชาการของวิทยาลัย
  ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากวิทยาลัยและ/หรือหน่วยงานอื่นๆ ในการไปนำเสนอผลงานวิชาการ
ชื่อผู้ทำวิจัย สถานะการทำวิจัย สัดส่วน
ผศ. บุญสืบ  โสโสม หัวหน้าวิจัย
นาย วรวิทย์  ชัยพรเจริญศรี ผู้ร่วมวิจัย
นาง อรธิรา  บุญประดิษฐ์ ผู้ร่วม
นางสาว อุทัยทิพย์  จันทร์เพ็ญ ผู้ร่วม
นาย โยธิน  ปอยสูงเนิน ผู้ร่วม
กลุ่มสาขาวิชาการ : พยาบาลศาสตร์
    ความสำคัญและที่มาของปัญหา :
   แนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ (health promotion) ได้ถูกนำมาใช้ในระบบบริการสุขภาพที่หลากหลายความหมาย โดยความหมายที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกคือ ความหมายตามกฎบัตรออตาวาที่กล่าวถึงการสร้างเสริมสุขภาพว่า “เป็นกระบวนการทางสังคม และการเมืองที่มิได้มุ่งแต่การดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างทักษะและความสามารถส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสุขภาพของสาธารณชน และบุคคล การสร้างเสริมสุขภาพเป็นกระบวนการสร้างเสริมศักยภาพของบุคคลให้สามารถควบคุมตนเอง และสร้างเสริมสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้นได้” (WHO, 1986) โดยในความหมายนี้ประเทศไทยได้นำมาเป็นแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับประชาชนในประเทศ องค์การอนามัยโลก (WHO, 2003) กล่าวว่าการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (best practice) ต้องเป็นการปฏิบัติที่คำนึงถึงเพศภาวะ (gender-based practice) และมีความจำเป็นในการพัฒนาการดูแลที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะในการให้บริการสุขภาพ (WHO, 2004) โดยเพศภาวะตรงกับภาษาอังกฤษว่า gender ซึ่งหมายถึง ความแตกต่างของความเป็นหญิงความเป็นชายที่สังคม และวัฒนธรรมเป็นตัวกำหนด มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา และบริบททางสังคม ทั้งนี้มโนทัศน์หลักของเพศภาวะประกอบด้วย บทบาททางเพศหรือบทบาทหญิงชาย (gender role) การแบ่งงานของหญิงชาย (gender - division of labor) อำนาจการตัดสินใจและโอกาส และการเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ โดยอยู่บนรากฐานของความสัมพันธ์เชิงอำนาจหญิงชาย (gender - power relation) ของหญิงชาย (WHO, 2002) ดังนั้นการศึกษานี้จึงสนใจศึกษาเกี่ยวกับการค้นหาวิธีการปฏิบัติที่เป็นการสร้างเสริมสุขาภาพที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อเสนอต่อวิทยาลัยพยาบาลในสังกัดว่าควรจัดการเรียนการสอนบูรณาการวิชาต่าง ๆ ได้แก่ วิชามนุษย์ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ วิชาการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันความเจ็บป่วย และวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพที่นำไปสู่การพัฒนาสมรรถนะบัณฑิตด้านการดูแลที่เป็นองค์รวม ที่เรียกว่า “การดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์” (อลิสา ศิริเวชสุนทร, 2553) อีกทั้งยังกำหนดให้เป็นอัตลักษณ์ตัวบ่งชี้คุณภาพสำหรับการประเมินคุฯภาพภายในของวิทยาลัยในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังไม่มีหลักฐานการวิจัยที่สะท้อนว่าหมวดหมู่ หรือองค์ความรู้ใดที่เป็นแก่นแกนสำคัญต่อจัดการเรียนการสอนที่สามารถยึดโยงให้นักศึกษาให้บริการสุขภาพประชาชนแล้วนำไปสู่การดูแลแบบองค์รวม และการดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ จากการวิเคราะห์ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมุมมองเพศภาวะในประมวลรายวิชาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต พ.ศ.2545 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2551 ของสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข (สถาบันพระบรมราชชนก, 2551) พบว่า มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับประเด็นเพศภาวะในหมวดการศึกษาทั่วไป กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ และมนุษย์ศาสตร์ ที่แทรกอยู่ในหัวข้อการสอนเรื่อง ปัญหาเด็ก วัยรุ่น สตรี และผู้สูงอายุในสังคมไทย และสังคมโลก แต่หลักสูตรยังไม่มีการนำประเด็นเพศภาวะมาสู่มุมมองด้านการจัดบริการสุขภาพสำหรับกลุ่มบุคคลแต่ละเพศของทุกช่วงวัย อีกทั้งคุณลักษณะบัณฑิตที่มุ่งหวังในรายวิชาการพยาบาลต่าง ๆ ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าต้องการให้นักศึกษาพยาบาลมีสมรรถนะด้านความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะ จากการศึกษาการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลเกี่ยวกับการดูแลที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับการดูแลบุคคลที่มีความพิการที่เป็นมุมมองของนักศึกษาพบว่านักศึกษาพยาบาลซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงไม่สามารถดูแลสุขภาพกลุ่มผู้รับบริการชายได้อย่างเท่าเทียมกันทุกช่วงวัย จึงขาดประสบการณ์ในการดูแลผู้พิการชายในขณะที่มีรายงานการวิจัยที่ยืนยันว่าการพัฒนาผู้ให้บริการสุขภาพให้มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะนั้นต้องสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับผู้รับบริการด้วยการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง (บุญสืบ โสโสม, 2553) ดังนั้นการศึกษานี้จึงต้องการศึกษาประสบการณ์ของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในช่วงวัยต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้มีโอกาสของการนำความรู้ที่ได้จากการเรียนในวิชาสังคมศึกษาเพื่อการพัฒนามนุษย์เพื่อนำไปสู่การออกแบบบริการสร้างเสริมสุขภาพที่มีคงามละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะเพื่อนำไปสู่แนวทางในการให้ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาสมรรถนะนักศึกษาพยาบาล และได้กลวิธีการสร้างเสริมสุขภาพที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในกลุ่มวัยต่าง ๆ ต่อไป
     
    วัตถุประสงค์ของโครงการ
    1.เพื่อศึกษาสมรรถนะของนักศึกษาพยาบาลด้านการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในช่วงวัยต่างๆ2.เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อบริการด้านการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะของบุคคลในช่วงวัยต่างๆ
    ขอบเขตของโครงการผลงาน
    การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่ศึกษาในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท ศึกษาในนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 2 ที่ฝึกปฏิบัติวิชาการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันการเจ็บป่วย ดำเนินการศึกษาระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ถึง เดือนเมษายน 2555
    ผลที่คาดว่าจะได้รับ
    ด้านการจัดการรเรียนการสอน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท สามารถนำความรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในช่วงวัยต่างๆ ที่ได้จากการวิจัย สามารถนำไปใช้พัฒนานักศึกษาเพื่อให้นักศึกษามีสมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะ และเพื่อนำไปสู่การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรสำหรับพัฒนานักศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติต่อไปด้านการให้บริการสุขภาพ สถานบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิสามารถนำประสบการณ์ที่นักศึกษาปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในช่วงวัยต่างๆ ไปใช้ในการจัดบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพได้
     นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
  : องค์ความรู้ที่ได้สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนโดยการนำบทเรียนหรือองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้เป็นแนวทางสำหรับอาจารย์เพื่อเตรียมนักศึกษาฝึกปฏิบัติงาน และเพื่อให้นักศึกษาใช้เป็นแนวทางในการฝึกปฏิบัติงาน และสำหรับประเด็นเพศภาวะที่นักศึกษายังไม่สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงได้ และใช้อย่างไม่ถูกต้อง ได้แก่ แนวคิดความสัมพันธ์ของบทบาทหญิงชาย และแนวคิดของความเสมอภาคของหญิงชายที่คิดว่าหญิงชายต้องได้รับการดูแลที่เหมือน ๆ กัน ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาที่เกี่ยวข้องต้องเน้นย้ำถึงการนำแนวคิดดังกล่าวให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องเพื่อเป้าหมายสุดท้ายคือ ประโยชน์ของหญิงชายที่ควรได้รับจากการให้บริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม
    บทคัดย่อ
   

บุญสืบ โสโสม, วรวิทย์ ชัยพรเจริญศรี, อรธิรา บุญประดิษฐ์, อุทัยทิพย์ จันทร์เพ็ญ, โยธิน ปอยสูงเนิน, สุนทรี สิทธิสงคราม, นฤมล จันทรเกษม, (2555). รายงานวิจัยเรื่อง ประสบการณ์ของนักศึกษาพยาบาลในการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในช่วงวัยต่างๆ. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท. สถาบันพระบรมราชชนกกระทรวงสาธารณสุข.

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกปฏิบัติการบูรณาการการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะสำหรับบุคคลในช่วงวัยต่างๆ โดยใช้การวิจัยเชิงชาติพันธ์วรรณนาแบบเร่งด่วน (rapid ethnographic study) เก็บข้อมูลจากนักศึกษาพยาบาลหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 2วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท จำนวน 82 คน ที่ปฏิบัติงานให้บริการสุขภาพในรายวิชาการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันความเจ็บป่วยศึกษาระหว่าง มิถุนายน – ตุลาคม 2555 เก็บข้อมูลแบบสังเกตแบบมีส่วนร่วมบันทึกภาคสนามระหว่างการประชุมปรึกษา และสนทนากลุ่มหลังจากการเรียนการสอนสิ้นสุดลงวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์แก่นสาระ ความเข้มงวดของการวิจัยและความน่าเชื่อถือได้ของการวิจัยใช้วิธีให้นักศึกษาพยาบาลยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่คณะผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์

ผลการวิจัยพบว่าการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะประกอบด้วยประการแรกคือการสร้างสัมพันธภาพจนกระทั้งผู้รับบริการให้การยอมรับว่านักศึกษาเสมือนกับการเป็นญาติคนหนึ่งของผู้รับบริการประการที่สองคือ การใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน ประการที่สามคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้ดีขึ้นด้วยวิธีการสะท้อนคิดและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประการสุดท้ายคือการใช้แนวคิดของการดูแลที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะเพื่อส่งเสริมให้พฤติกรรมสุขภาพของประชาชนดีขึ้นนอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกช่วงวัยดีขึ้นได้แก่การดูแลที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม และทรรศนะทางเพศของประชาชน ได้แก่ บาทบาทหญิงชาย (genderrole) และ อัตลักษณ์ทางเพศของหญิงชาย (gender identity) ในทางตรงกันข้ามสำหรับการดูแลวัยผู้ใหญ่ วัยกลางคนและวัยสูงอายุพบว่านักศึกษาใช้แนวคิดของบทบาทหญิงชายและการแบ่งงานกันทำระหว่างหญิงชายประยุกต์ใช้ในโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพ อีกทั้งนักศึกษายังให้ความหมายของกานำความเท่าเทียมของของหญิงชาย(gender equality) มาใช้ในการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพว่า หมายถึงการที่หญิงชายได้รับการส่งเสริมสุขภาพที่เหมือนๆ กัน ข้อดีของการฝึกปฏิบัติในครั้งนี้คือ การเรียนรู้เทคนิคการสร้างสัมพันธภาพทักษะทางปัญญา และการคิดวิเคราะห์ ข้อด้อยของการฝึกปฏิบัติครั้งนี้คือนักศึกษาให้ความหมายของความสัมพันธ์เชิงอำนาจหญิงชายมีความหมายเดียวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของสมาขิกหญิงชายในครอบครัว

ผลการวิจัยให้ข้อเสนอแนะว่าควรนำขั้นตอนของการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ที่มีความละเอียดอ่อนเชิงเพศภาวะมาใช้อาจารย์ผู้สอนควรสะท้อนคิดความเข้าใจของนักศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดความเท่าเทียมกันของหญิงชายและแนวคิดความสัมพันธ์ของบทบาทหญิงชายที่เป็นความหมายที่ถูกต้องที่นำมาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนได้จริง

Sosome B., Chaipornjaroensri W.,Boonpradit O., Janpen U., Poysongnern Y., Sithisongkram S., Jankasme N. Nursing Students’ Perceptionof Health Promotion Practicing to Integrate Gender Sensitive and Humanized Carefor People Each Stage of Life. Boromarajonani College of NursingPraputhabat, Praboromarajachanok Institute for Workforce Development. Ministryof Public Health.

Abstract

This study aimed to illustratenursing students’ perception of health promotion practicing to integrate gendersensitive and humanized care for people each stage of life. A rapidethnographic study was conducted among participants, 82 secondyear nursing students, practicing 4 weeks in health promotion and healthprevention disease course of BoromarajonaniCollege of Nursing, Phraputtabaht, Saraburi Province, during June- October2012. Data collected fromparticipation observation, field note during pre-post conference, and focusgroup discussion after finish course. Thematically analysis qualitative data,rigorous and trustworthiness confirmed with participants.

Findingsshowed that the practicing gender - sensitive health promotion with humanizedcare were including, firstly made relationship until client closely acceptlikely relative person, secondly courteously approached, thirdly usingreflection and sharing knowledge to improve behavioral modification, and lastlyutilized gender lens to encourage quality of health behaviors. Furthermore,they found that key successes for facilitate improving health behaviors of allage were employed relevantly cultural and gender perspective particularlygender role, and gender identity. In contrast for promote health of adult,midlife, and elderly, they used gender role and gender divisions of labor forapplying their health promotion programs.

Additionally,they addressed that gender equality was defined as men and women need the sameservices of health promotions. They perceived that advantages of this practicewere technique for making the relationship, cognitive skills, and analyticalthinking. Disadvantage were they assumed that the meaning of gender powerrelation similar to an intimate relationship.

This findings recommendationthat the process of humanistic and gender sensitive approach were benefit for nursing students to perform their health services.Nurse instructors should be reflected the concepts of gender equality andgender power relation to develop their understanding to meet the essentiallymeanings with used for health promotion.


ดาว์โหลดไฟล์บทคัดย่อ :  ดาวน์โหลดไฟล์ 20130812155731.pdf
 
 
ผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารระดับชาติและนานาชาติ ปี พ.ศ คะแนน วันที่เผยแพร่ โหลด
 
  การเผยแพร่บทความวิชาการ ปี พ.ศ คะแนน วันที่เผยแพร่ โหลด
 
       บูรณาการกับโครงการบริการวิชาการ             ความร่วมมืองานวิจัยกับบุคคลภายนอก
ปีปฏิทิน : 2554
ปีการศึกษา : 2555
ปีงบประมาณ : 2555
วันที่เริ่ม : 1 ธ.ค. 2554    วันที่แล้วเสร็จ : 31 พ.ค. 2556
แหล่งเงินทุน  
ภายใน จำนวนเงิน 50,280.00 บาท
ภายนอก จำนวนเงิน 0.00 บาท
รวมจำนวนเงินทุน 50,280.00 บาท
  ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูล จำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด Download
ทั้งหมด 0 รายการ
 
Copyright©Prabormajchannok Instiute of Halth Workforce Development 2009  All rights reserved : Version 7.6.48