วิทยาลัยฯสามารถดำเนินการในประเด็นของผลการเรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนหรือองค์กรภายนอก ได้ ๕ ข้อ ดังนี้
๑. มีการดำเนินงานตามวงจรคุณภาพ (PDCA) โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนหรือองค์กร
วิทยาลัยฯได้ดำเนินการสนทนากลุ่มร่วมกับ อสม.ตำบลพุกร่างและชมรมผู้สูงอายุสิงห์ทองหนองคณฑีเพื่อประเมินผลการให้บริการวิชาการโครงการพัฒนาศักยภาพอสม.เรื่องสมุนไพรกับสุขภาพ พบว่ามีประโยชน์ เช่น การใช้บริโภคและความสัมพันธ์ของคนในชุมชนดีขึ้น เป็นต้น แต่จุดอ่อนที่พบคือปัญหาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะการซื้อยาแก้ปวด ยาชุดมารับประทานเองเป็นประจำเนื่องจากขาดความรู้เรื่องการใช้ยา ดังนั้นชุมชนควรมีการพัฒนาเรื่องสมุนไพรให้ก้าวหน้าขึ้นจนสามารถนำมาแก้ปัญหาการใช้ยาของประชาชนได้ เช่น นำมาทำเป็นยารักษาโรคซึ่งเป็นภูมิปัญญาเดิมของชุมชนจากนั้นพัฒนาให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน และมีข้อเสนอแนะให้มีการนำผักสมุนไพรมาใช้ส่งเสริมสุขภาพคนในชุมชนทุกช่วงวัย เป็นต้น (๕.๒.๑-๑-๑) วิทยาลัยฯประชุมวางแผนร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองคณฑี ชมรมผู้สูงอายุสิงห์ทองหนองคณฑีและเทศบาลตำบลพุกร่าง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เพื่อประเมินผลการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพอสม.เรื่องสมุนไพรกับสุขภาพ โดยนำผลสรุป การประเมินผลและข้อเสนอแนะจากการจัดทำโครงการฯ มาเป็นแนวทางในการวางแผนการจัดกิจกรรมในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ (Act) (๕.๒.๑-๑-๒)
วิทยาลัยฯวางแผนการจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุตำบลพุกร่าง : สมุนไพรในชีวิตประจำวัน (Plan) (๕.๒.๑-๑-๓) มีการจัดกิจกรรมตามแผน เช่น การให้ความรู้และปรับทัศนคติของประชาชนเรื่องการใช้ยาให้ถูกต้อง สมุนไพรในชีวิตประจำวันที่มีผลต่อสุขภาพ ชมรมผู้สูงอายุฯสนับสนุนให้ประชาชนฟื้นฟูภูมิปัญญาเดิมของชุมชนในการป้องกันแผลกดทับโดยนำไพรผสมกับน้ำมันมะพร้าวทาและสร้างนวัตกรรมถุงผ้าแก้ปวด(ถุงผ้าบรรจุข้าวสาร ใบเตย การบูร) ซึ่งเป็นการพัฒนาการดูแลสุขภาพของชุมชนเพื่อการพึ่งพาตนเองต่อไป มีการส่งเสริมสุขภาพเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้วยการให้เด็กมีส่วนร่วมในการปลูกผัก ดูแลและนำผักจากสวนสมุนไพรมาประกอบอาหาร และ วิทยาลัยฯนำองค์ความรู้จากโครงการพัฒนาศักยภาพอสม.เรื่องสมุนไพรกับสุขภาพ มาใช้ในการเรียนการสอนร่วมกับให้นักศึกษาไปศึกษาสวนสมุนไพรและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชนเรื่องสมุนไพรในรายวิชาโภชนศาสตร์ เป็นต้น (Do) (๕.๒.๑-๑-๔) วิทยาลัยฯสรุปผลการดำเนินโครงการฯตามตัวชี้วัด (Check) (๕.๒.๑-๑-๕) และนำเสนอผลสรุปโครงการฯในที่ประชุมคณะกรรมการบริการวิชาการ ในประเด็นของผลการจัดกิจกรรม ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพ ระบบและกลไกการให้บริการวิชาการแก่สังคมต่อไป (๕.๒.๑-๑-๖)
๒. บรรลุเป้าหมายตามแผนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐
วิทยาลัยฯร่วมกับเทศบาลตำบลพุกร่าง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองคณฑี ประธานชมรมผู้สูงอายุและตัวแทน อสม.ได้ประเมินผลตามตัวชี้วัดของแผนประจำปี จำนวน ๒ ตัวชี้วัด พบว่าบรรลุเป้าหมายทุกตัวชี้วัด และประเมินผลตามตัวชี้วัดของโครงการฯ จำนวน ๔ ตัวชี้วัด บรรลุเป้าหมายทุกตัวชี้วัด คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ (๕.๒.๑-๒)
๓. ชุมชนหรือองค์กรมีผู้นำหรือสมาชิกที่มีการเรียนรู้และดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ชมรมผู้สูงอายุสิงห์ทองหนองคณฑี เป็นแกนนำในการประยุกต์ความรู้เรื่องสมุนไพรมาต่อยอดสู่การส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาเป็นยารักษาโรค เช่น การป้องกันแผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียงโดยนำไพรผสมกับน้ำมันมะพร้าวทาบริเวณผิวหนังถูกกดและนวัตกรรมถุงผ้าแก้ปวด(ถุงผ้าบรรจุข้าวสาร ใบเตย การบูร)โรคกระเพาะอาหารอักเสบ และอาการเจ็บปวดตามร่างกาย เป็นต้น (๕.๒.๑-๓-๑) มีการขยายพื้นที่การเพาะปลูกผักสมุนไพรเข้าไปในบ้านเรือนของประชาชนเพื่อใช้บริโภคในชีวิตประจำวัน และมีการนำผักสมุนไพรมาประกอบอาหารให้เด็กรับประทานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (๕.๒.๑-๓-๒)
๔. ชุมชนหรือองค์กรสร้างกลไกที่มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยคงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนหรือองค์กร
ชมรมผู้สูงอายุสิงห์ทองหนองคณฑี ตำบลพุกร่างเป็นแกนนำการขับเคลื่อนให้ประชาชนในชุมชนร่วมกันพัฒนาการทำยาจากสมุนไพร นำสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรค(๕.๒.๑-๔-๑) ขยายพื้นที่การเพาะปลูกผักสมุนไพรเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนเพิ่มขึ้นและบริโภคจนเป็นวิถีชีวิตของชุมชน ชุมชนได้ตระหนักว่าสมุนไพรมีคุณค่าต่อชีวิตที่ควรปลูกฝังทัศนคตินี้ตั้งแต่วัยเด็ก จึงริเริ่มจัดกิจกรรมนำผักสมุนไพรมาใช้ส่งเสริมสุขภาพในวัยเด็ก ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้วยการให้เด็กมีส่วนร่วมในการปลูกผัก ดูแล บำรุงรักษาและนำผักจากสวนสมุนไพรมาประกอบอาหารให้เด็กรับประทานทุกวัน (๕.๒.๑-๔-๒)
๕. มีผลกระทบที่เกิดประโยชน์สร้างคุณค่าต่อสังคม หรือชุมชน/องค์กรมีความเข้มแข็ง
วิทยาลัยฯร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองคณฑี ได้สนทนากลุ่มกับ อสม. ชมรมผู้สูงอายุสิงห์ทองหนองคณฑี และประชาชนในชุมชนเพื่อประเมินผลของโครงการฯ (๕.๒.๑-๕-๑) พบว่ามีประโยชน์และคุณค่า ดังนี้ ๑) ลดปัญหาพฤติกรรมของประชาชนในการซื้อยามารับประทานเอง ๒) คุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถใช้แก้ปัญหาและส่งเสริมสุขภาพได้ ๓) ประชาชนมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมโดยมีการปลูกและบริโภคผักสมุนไพรในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น ๔) ชุมชนริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้วยผักสมุนไพร ๕) ผู้สูงอายุเกิดความรู้สึกมีคุณค่าและมีพลัง และ ๖) มีนวัตกรรมของชุมชน คือ ถุงผ้าแก้ปวด สำหรับการดูแลสุขภาพคนในชุมชนโดยภูมิปัญญาของชุมชนเอง เมื่อได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ต่อไป (๕.๒.๑-๕-๒)